เว็บไซต์ค้าปลีกออนไลน์ยักษ์ใหญ่ห้าแห่งของอเมซอนได้ถูกขึ้นบัญชีดำโดยผู้บริหารทรัมป์ มีการเพิ่มแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในสหราชอาณาจักรเยอรมนีฝรั่งเศสอินเดียและแคนาดาลงใน“ ตลาดที่มีชื่อเสียง”

สำนักงานตัวแทนการค้าของสหรัฐอเมริกากล่าวว่าไซต์ช่วยอำนวยความสะดวกในการขายสินค้าปลอมและสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ อเมซอนกล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวมีแรงจูงใจทางการเมืองและได้ลงทุนอย่างหนักเพื่อป้องกันกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

สำนักงานตัวแทนการค้ากล่าวว่าการเพิ่มเว็บไซต์อเมซอนเป็นผลมาจากการร้องเรียนจากธุรกิจในสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการขายสินค้าปลอม

Amazon มีเงิน 250,000 ปอนด์สำหรับกองทุนหนังสือ
คนงานของ Amazon ประท้วงเรื่องการป้องกันไวรัส
Jeff Bezos บอสของ Amazon เพิ่ม $ 24bn สู่โชคลาภ
ในขณะที่รายการไม่มีน้ำหนักที่ถูกกฎหมาย แต่ก็ให้ความสำคัญกับ บริษัท ที่รวมอยู่ในนั้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาเป็นชื่อครัวเรือนเช่น Amazon

Amazon อธิบายว่าการรวมไซต์เป็น “การกระทำทางการเมือง” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ไม่ชอบเจฟฟ์เบโซสผู้ก่อตั้งและหัวหน้าผู้บริหาร

“ การกระทำทางการเมืองอย่างหมดจดนี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งของการบริหารโดยใช้รัฐบาลสหรัฐในการเพิ่มความอาฆาตพยาบาทต่อ Amazon” บริษัท กล่าวในแถลงการณ์

ยักษ์ใหญ่แห่งการช้อปปิ้งออนไลน์ยังกล่าวว่าได้ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในด้านเทคโนโลยีเพื่อหยุดยั้งการปลอมแปลงผลิตภัณฑ์จากการขายบนแพลตฟอร์ม เว็บไซต์ US ของ Amazon ถูกแยกออกจากรายการ

ตามรายงานการร้องเรียนกล่าวว่าเว็บไซต์ของ Amazon ไม่ได้ให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับผู้ขายและกระบวนการลบแพลตฟอร์มที่ขายสินค้าลอกเลียนแบบนั้น“ มีความยาวและเป็นภาระ”

ในแถลงการณ์ของ Amazon มันกล่าวว่าได้ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญในการแก้ปัญหาและบล็อกรายชื่อที่ไม่ดีมากกว่า 6 พันล้านรายการก่อนที่จะเผยแพร่ไปยังแพลตฟอร์มเมื่อปีที่แล้ว

“ เราเป็นผู้มีส่วนร่วมที่กระตือรือร้นในการต่อสู้กับของปลอม” โฆษกของ Amazon กล่าว

Mr Trump ได้ปะทะกับ Amazon และส่วนตัวกับ Mr Bezos ซึ่งเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ Washington Post ในอดีตนายทรัมป์ได้กล่าวว่าอเมซอนไม่ได้จ่ายภาษีเพียงพอ

เมื่อปีที่แล้วอเมซอนได้ท้าทายกระทรวงกลาโหมสหรัฐในศาลหลังจากถูกส่งมอบสัญญาการประมวลผลคลาวด์เพนตากอนมูลค่า $ 10 พันล้าน (8 พันล้านปอนด์) ซึ่งไปที่ Microsoft ขณะนี้ผู้บริหารของรัฐบาลกลางกำลังสอบสวนข้อเรียกร้อง