Pneumatic conveying ขนการขนถ่ายที่สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยและประหยัด

Standard

วิวัฒนาการด้านการผลิตของอุตสาหกรรมประเภทต่างๆ ได้เจริญก้าวหน้าไป อย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ดังที่ปรากฎในตำราหรือวารสารวิชาการต่างๆ ล้วน แต่เป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงกว่า ซึ่งวิศวกรควรให้ความสนใจและติดตามความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาแต่เทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย อาจจะอยู่ในสภาพที่ด้อยสมรรถนะกว่าที่มีอยู่หรือไม่อาจดำเนินการได้เต็มความสามารถหากว่าขาดตัวแปร ที่สำคัญตัวหนึ่งตัวแปรดังกล่าวก็คือ การเคลื่อนที่ดังที่เรียกว่า การขนถ่าย ที่เข้ามาสนับสนุนกระบวนการผลิต ตั้งแต่การนำวัตถุดิบมายังโรงงานผ่านกระบวนการผลิต Pneumatic conveying ขนถ่านวัสดุที่มีน้ำหนักเบา การเคลื่อนที่หรือการขน ถ่ายนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

Pneumatic conveying เคลื่อนย้ายชิ้นงานจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่ง ขับเคลื่อนด้วยโซ่ลักษณะการลำเลียง ขนถ่ายวัสดุที่มีมวลเบา และสามารถใช้ลมเป่าให้ลอยได้

Pneumatic conveying เป็นระบบขนถ่ายวัสดุที่เหมาะสำหรับใช้ขนวัสดุที่อยู่ในรูปของเมล็ด ผงยังเป็นระบบที่ทำให้สภาพแวดล้อมสะอาดอีกด้วย เนื่องจาก Pneumatic conveying เป็นระบบขนถ่ายวัสดุที่ใช้พลังงานในการขนถ่ายวัสดุค่อนข้างสูง เลือกระบบขนถ่ายวัสดุด้วยลมระบบขนถ่ายวัสดุด้วยลมแบบใดจะมีค่าใช้จ่ายโดยรวมต่ำที่สุด

Pneumatic conveying ลำเลียงชิ้นงานโดยใช้อากาศอัดนั้น ทำงานโดยการอัดฉีดลมหรืออากาศอัดเข้าไปในตัวอุปกรณ์ในลักษณะที่ทำให้เกิดแรง

Pneumatic conveying ระบบขนถ่ายวัสดุที่เหมาะสำหรับใช้ขนวัสดุที่อยู่ในรูปของเมล็ด และผงอีกทั้งยังเป็นระบบที่ทำให้สภาพแวดล้อมสะอาดอีกด้วย แต่เนื่องจากระบบขนถ่ายวัสดุด้วยลมเป็นระบบขนถ่ายวัสดุที่ใช้พลังงานในการขนถ่ายวัสดุค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับระบบขนถ่ายชนิดอื่นๆ จึงมักจะพบกับคำถามสำหรับผู้ที่กำลังตัดสินใจเลือกระบบขนถ่ายวัสดุด้วยลมที่ว่า Pneumatic conveying แบบใดจะมีค่าใช้จ่ายโดยรวมต่ำที่สุด เนื่องจากมีตัวแปรต่าง ๆ มากมายที่มีผลต่อค่าใช้จ่ายโดยรวม เช่น การกำหนดขนาดท่อที่ใช้ขนวัสดุจะเป็นตัวกำหนดรูปแบบของการไหลของวัสดุในท่อ ความดันและปริมาณของลมที่ต้องใช้โดยที่ความดันและปริมาณของลมที่ต้องใช้นั้นจะเป็นตัวกำหนดชนิดของอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระบบ ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการลงทุน และค่าใช้จ่ายในการใช้งาน ที่แตกต่างกันออกไป โดยที่ท่อขนาดเล็กต้องใช้ความดันในการขนถ่ายสูงและต้องใช้ตัวจ่ายวัสดุที่สามารถทำงานที่ความดันสูงและมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนสูงตามไปด้วย ส่วนท่อขนาดใหญ่จะใช้ความดันในการขนถ่ายต่ำกว่าและใช้ตัวจ่ายวัสดุที่ทำงานได้ที่ความดันต่ำกว่าซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการลงทุนต่ำกว่าตามไปด้วย