กันสาดพับเก็บได้ไม่ใช่แค่กันแดดแต่ยังกันฝนได้ด้วย

Standard

กันสาด คือ ตัวช่วยป้องกันแสงแดด ความร้อน และฝนให้กับบ้าน ถือเป็นส่วนประกอบที่เหมาะสมกับสภาพอากาศในประเทศไทย แต่สำหรับบ้านยุคใหม่ที่มีดีไซน์โมเดิร์นมากขึ้น การเลือกใช้กันสาดจึงต้องเลือกวัสดุและการออกแบบที่เหมาะสมกับดีไซน์ของบ้านมากกว่าเดิม ดีไลท์ จะมาแนะนำเคล็ดลับการเลือกกันสาดพับได้ ให้เหมาะกับบ้านยุคใหม่ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

4 ข้อควรรู้เลือกกันสาดให้เข้ากับบ้านสไตล์โมเดิร์น
1. เลือกกันสาดจากน้ำหนัก
เทคนิคในการเลือกกันสาดอย่างแรก คือ การเลือกกันสาดที่มีน้ำหนักเบา เพราะหากไม่พิจารณาเรื่องน้ำหนักให้ดี อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างบ้านของเราในอนาคตได้ ดังนั้นห้ามลืมสอบถามผู้เชี่ยวชาญด้านการติดตั้งกันสาดด้วยว่า วัสดุสำหรับโครงและแผ่นกันสาดแต่ละประเภทสามารถรองรับน้ำหนักได้มากน้อยแค่ไหน
ลักษณะการติดตั้งกันสาด
การเลือกลักษณะการติดตั้งกันสาดขึ้นอยู่กับทิศทางที่แสงแดดส่องเข้าบ้าน โดยมีหลักการดังนี้
– กันสาดแนวดิ่ง มีคุณสมบัติช่วยบังแสงอาทิตย์ยามเช้าและเย็นได้เป็นอย่างดี แต่ไม่สามารถบังแสงแดดได้ทั้งวัน จะเหมาะสำหรับแสงแดดที่ส่องเข้ามาทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก
– กันสาดแนวราบ กันสาดประเภทนี้มีให้เลือกทั้งแบบมีเสาและไม่มีเสา เหมาะสำหรับแสงแดดที่เข้ามาทางทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งคุณควรคำนวนองศาให้ดีเพื่อให้กันสาดสามารถป้องกันแสงแดดที่ตกกระทบได้ตลอดทั้งวัน
– กันสาดแบบผสม เป็นกันสาดที่รวมข้อดีของกันสาดแนวดิ่ง และกันสาดแนวราบเข้าไว้ด้วยกัน

เลือกโครงหลังคาแบบที่ใช่
วัสดุโครงของ กันสาดพับได้เป็นตัวช่วยรับน้ำหนักชั้นดี และยังช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับโครงสร้างของตัวบ้านในอนาคตได้อีกด้วย เพราะฉะนั้นอย่าลืมเลือกโครงให้เหมาะสมกับบ้านของคุณด้วย ซึ่งโครงของกันสาดแบ่งเป็น 3 ประเภท ดังนี้
– เหล็ก เป็นโครงกันสาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน เพราะติดตั้งง่าย แข็งแรง ทนทาน และมีราคาไม่แพงจนเกินไป แต่ต้องชุบเคลือบกันสนิมให้ดี
– ไม้เนื้อแข็ง ใช้สำหรับขึ้นโครงและทำไม้ระแนง มีความสวยงาม เรียบหรู เหมาะกับบ้านสไตล์ทรอปิคอล (Tropical) หรือ คันทรี (Country) แต่ข้อเสียคือมีราคาค่อนข้างสูง
– ไม้เทียม เป็นโครงกันสาดที่ถูกเรียกว่า พลาสวูด (Plasswood) เน้นโชว์ความสวยงามของเนื้อไม้ที่เลียนแบบไม้จริง แต่ข้อดีคือมีความแข็งแรง ทนทาน และมีราคาที่ถูกกว่า

เลือกวัสดุกันสาดที่เหมาะสมกับสไตล์บ้าน

วัสดุหลังคากันสาดมีลักษณะ ข้อดี และข้อเสีย ที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งคุณควรเลือกวัสดุให้เหมาะสมกับดีไซน์ของบ้านด้วย เช่น
– หลังคาโพลีคาร์บอเนต มีสีสันสวยงาม สามารถดัดโค้งได้ทำให้สามารติดตั้งได้กับบ้านทุกแบบ ทุกบริเวณ ราคาไม่แพง แต่หากใช้สำหรับกลางแจ้งเป็นเวลานานอาจเจอปัญหากรอบ แตก ต้องซ่อมแซมและเปลี่ยนเป็นระยะ
– หลังคาไฟเบอร์กลาส (GRP) วัสดุหลังคากันสาดโปร่งแสง มีลักษณะคล้ายโพลีคาร์บอเนต แต่ไฟเบอร์กลาสจะมีความแข็งแรง ทนทานกว่า เนื่องจากคุณสมบัติในการขยายตัวน้อยกว่าประมาณ 50% ทำให้มีโอกาสเกิดความเสียหายหรือชำรุดน้อยกว่า แต่ราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
– หลังคาเมทัลชีท มีความทนทานสูง รั่วซึมยาก เพราะผลิตจากเหล็กรีดเรียบแบบแผ่นทึบ มีน้ำหนักเบา และมีความแข็งแรง ทนทานสูง แต่มีคุณสมบัติกักเก็บความร้อนอาจทำให้บ้านร้อนได้ และมีเสียงดังรบกวนเมื่อฝนตก
– หลังคาไวนิล มีน้ำหนักเบามาก และมีคุณสมบัติคล้ายหลังคากันสาดเมทัลชีท แต่สามารถกันความร้อนได้ดีกว่า เสียงไม่ดังเท่าหลังคาเมทัลชีท และมีราคาที่ค่อนข้างสูง ใช้โครงสร้างเหล็กมาก หนาเทอะทะ บ้านไม่โปร่งโล่งอึดอัดไม่สบายตา

อีกความพิเศษของการติดตั้งกันสาดอัตโนมัติ ไม่ใช่แค่เรื่องการกางออกและพับเก็บเพื่อป้องกันแสงแดดร้อน ๆ เพียงอย่างเดียว ทว่าในช่วงหน้าฝนก็ยังสามารถปกป้องไม่ให้น้ำกระเด็นเข้ามาภายในตัวบ้านอีกด้วยเพียงแค่กางกันสาดออกไปเท่านั้น ความคุ้มค่าที่มากกว่าเพียงแค่เลือกติดตั้งกันสาดพับได้

คงพอมองเห็นภาพกันมากขึ้นสำหรับบ้านไหนที่ตอนเช้าต้องเจอกับแสงแดดอันแสนรุนแรง แต่พอตกบ่ายแล้วอากาศร่มรื่น การมีกันสาดแขนยื่นติดตั้งไว้จะช่วยให้บ้านน่าอยู่ขึ้นอีกเยอะ แถมตอนฝนตกก็ไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องน้ำฝนกระเด็นอีกด้วย